ที่ชาร์จแบตในรถ
ที่ชาร์จแบตในรถยนต์ ดีหรือไม่
May 11, 2017
แบตเตอรี่สำรอง
จะปลอดภัยไหมหากจะเพิ่มแบตเตอรี่สำรองเข้าไป?
June 5, 2017
ที่ชาร์จแบตในรถ
ที่ชาร์จแบตในรถยนต์ ดีหรือไม่
May 11, 2017
แบตเตอรี่สำรอง
จะปลอดภัยไหมหากจะเพิ่มแบตเตอรี่สำรองเข้าไป?
June 5, 2017

ดูแลรักษาแบตเตอรี่ บ่อยๆ ทำให้แบตเตอรี่อยู่กับเราได้นานขึ้น

ดูแลรักษาแบตเตอรี่

ดูแลรักษาแบตเตอรี่ ไม่ให้แบตเตอรี่รถยนต์หมด


อากาศ, การเสื่อม, และไฟรั่ว

วิธีที่ดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงการจั๊มสตาร์ท คือ การไม่ปล่อยให้แบตเตอรี่ของคุณหมดตั้งแต่เนิ่นๆ

นกต้องบิน ปลาต้องว่ายน้ำฉันท์ใด แบตเตอรี่ก็ต้องหมดได้ฉันนั้น  ตามหลักวิทยาศาสตร์ของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ยานยนต์   เหตุผลที่ทำให้แบตเตอรี่หมดมีอยู่ด้วยกันหลายประการ  ไม่ว่าจะเป็นไฟรั่ว, การสูญเสียประจุหรือการเสื่อมตามปกติ  แต่นับว่ายังโชคดีที่วิธีการดูแลรักษาแบตเตอรี่ไม่ให้หมดก็มีมากมายหลายวิธีด้วยเช่นกัน    สิ่งที่สำคัญคือ การหาเหตุผลที่ทำให้แบตเตอรี่หมดหรือปัจจัยที่เป็นไปได้ที่สามารถทำให้แบตเตอรี่หมดได้ในอนาคตและเน้นไปที่สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่หมดโดยตรง


สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมด


ดูแลรักษาแบตเตอรี่

มีเหตุผลต่างๆมากมายที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมดแต่เหตุผลเรื่องอุณหภูมิสูงสุด/ต่ำสุด ลดลงกลับเป็นเหตุผลที่พบได้ค่อนข้างสูง   อากาศเย็นสามารถทำให้แบตเตอรี่อ่อนได้เพราะอุณหภูมิที่ต่ำมากทำให้จำนวนแอมแปร์ที่ใช้ได้น้อยและส่งผลให้เครื่องยนต์เกิดอาการ  crank over  ในขณะที่อากาศร้อนถือว่าเป็นตัวฆ่าแบตเตอรี่อย่างแท้จริง

ในทางกลับกัน  อาการไฟรั่วก็สามารถทำให้แบตเตอรี่ใหม่ใช้การไม่ได้เช่นกัน   แม้ว่าแบตเตอรี่จะมีการชาร์จสำรองไว้เป็นอย่างดีแล้ว ในกรณีที่คุณมี  trickle charger  แต่ไฟรั่วในระบบก็จะทำให้แบตเตอรี่หมดได้อีกครั้งอยู่ดี

หากจะป้องกันโอกาสการเกิดไฟรั่วดังกล่าวในระหว่างการเก็บรักษา อาจต้องไม่เชื่อมต่อกับแบตเตอรี่เพราะนั่นจะป้องกันไฟรั่วในระบบไฟฟ้ายานยนต์ไม่ให้มาทำลายแบตเตอรี่ ได้  ส่วนการสูญเสียประจุตามปกติสามารถเกิดขึ้นได้แม้แต่กับแบตเตอรี่ใหม่  ซึ่งมันส่งผลให้ระดับแบตเตอรี่ต่ำจนเป็นอันตรายได้


ควบคุมอากาศไม่ให้ทำลายแบตเตอรี่ของคุณ


ดูแลรักษาแบตเตอรี่

คุณทำอะไรได้ไม่มากในการที่จะปกป้อง แบตเตอรี่ ของคุณจากสภาพอันโหดร้ายของอากาศในหน้าร้อนหรือความหนาวเย็นในหน้าหนาว นอกไปเสียจากการเก็บมันไว้เฉยๆในโรงรถ   ถ้านี่เป็นทางเลือกที่มี และถ้าไม่มีการแกว่งของอุณหภูมิสูงสุด/ต่ำสุด มันอาจช่วยให้แบตเตอรี่ ของคุณอยู่ได้นานขึ้นกว่าการใช้วิธีอื่น

แต่วิธีที่ดีที่สุดที่ป้องกันไม่ให้ความร้อนหรือความหนาวเย็นมาทำลายแบตเตอรี่คือ  การตรวจสอบให้ดีว่ามันมีสภาพดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อยู่เสมอ

แบตเตอรี่ที่มีการเก็บรักษาอย่างเหมาะสมสามารถรับมือกับการแกว่งของอุณหภูมิที่รุนแรงที่เป็นต้นเหตุของปัญหา ได้ดีกว่า ยกตัวอย่างเช่น  เป็นไปได้สูงว่า electrolyte ในแบตเตอรี่ระเหยออกในช่วงหน้าร้อน ดังนั้นต้องดูแลรักษาให้ดี     Electrolyte  ในระดับที่ต่ำมีผลเสียต่อสมรรถนะแบตเตอรี่และคุณคงไม่อยากขับรถไปพร้อมกับแผ่นตะกั่วที่เปิดออกมา.

การเติม electrolyte เมื่อมันอยู่ในระดับต่ำ ช่วยได้ก็จริง แต่คุณจำเป็นต้องรู้ ด้วยว่าวิธีนี้ช่วยได้มากน้อยแค่ไหน   หนึ่งในตัวบ่งบอกสัญญาณที่บอกว่าแบตเตอรี่ กำลังจะรอดแล้ว คือ  ถ้า  electrolyte  ยังคงอ่อนอยู่ หลังจากแบตเตอรี่ ไม่รับการชาร์จเพิ่มแล้วหรือถ้าเซลล์หนึ่งอ่อนกว่าเซลล์อื่น   คุณสามารถตรวจสอบมันได้ด้วย    hydrometer หรือ  refractometer

การดูแลรักษาการเชื่อมต่อไฟให้เป็นระเบียบและการชาร์จแบตเตอรี่อย่างเหมาะสมจะเป็นผลดีในหน้าหนาวเมื่อค่าของกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่จ่ายได้ มีน้อย     ความจุของแบตเตอรี่ตะกั่ว – กรด สามารถลดลงได้ถึงประมาณ  20 % เมื่ออุณหภูมิแตะถึงจุดเยือกแข็ง ดังนั้นทุกค่ากระแสไฟฟ้านับรวมหยดปรอทส่วนเพิ่มเติม

โดยเฉพาะในแบตเตอรี่ขนาดเล็กลงที่ไม่มีค่าของกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่จ่ายได้ (CCA) มาก ในการใช้เริ่มต้นทำงานและในการใช้งานในจุดที่ค่าของกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่จ่ายได้ของแบตเตอรี่ค่อนข้างใกล้กับจำนวนแอมแปร์   มอเตอร์สตาร์ทจะมีอาการ crank over


ควบคุมอาการไฟรั่วไม่ให้ทำลายแบตเตอรี่ของคุณ


ดูแลรักษาแบตเตอรี่

การค้นหาจุดไฟรั่วก่อนที่มันจะทำลายแบตเตอรี่ของคุณเป็นเรื่องยากเพราะคุณจะไม่ทันสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ    คล้ายกับการที่คุณอาจเปิดไฟหน้ารถทิ้งไว้โดยบังเอิญแบบไม่รู้ตัวและสถานการณ์นั้นบ่งบอกได้ชัดว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น   ในกรณีที่พบไฟรั่วหลายๆจุด   ชิ้นส่วนประกอบที่ดึงจำนวนแอมแปร์ไปในขณะที่รถไม่ทำงาน ไม่ได้เตือนให้คุณรู้ตัวและคุณจะมารู้อีกทีเมื่อคุณสตาร์ทรถและได้ยินเสียงมอเตอร์สตาร์ทดังคลิก

ข่าวดีคือ การที่แบตเตอรี่หมดจากอาการไฟรั่วเพียงครั้งเดียวไม่ได้สร้างความเสียหายให้แบตเตอรี่ตลอดไป เว้นเสียแต่ว่าแบตเตอรี่ของคุณเก่าและเสื่อมแล้ว   ที่สำคัญคือ คุณต้องหาตำแหน่งของไฟที่รั่วและจัดการซ่อมแซมเพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่มีไฟรั่วซ้ำซ้อนอีก   นับตั้งแต่ที่ความเสียหายถาวรเกิดขึ้นเพราะแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่ตะกั่ว – กรด ลดลงต่ำกว่าแรงดันไฟฟ้าต่ำสุด  ดังนั้น จะเป็นผลดีกว่าถ้ารีบแก้ปัญหานี้ก่อนเป็นอันดับแรก

แม้จะมีวิธีการหาและแก้ไขอาการไฟรั่วมากมาย  แต่วิธีที่ง่ายที่สุดคือ การใช้วิธีลองผิดลองถูก อย่างเช่น เมื่อไม่มีการสตาร์ทเครื่องยนต์และไม่มีการเชื่อมต่อแบตเตอรี่ คุณสามารถใช้อุปกรณ์  test light มาเช็คการรั่ว   ถ้าอุปกรณ์  test light  ที่ต่อกับขั้วแบตเตอรี่แต่ไม่ต่อกับสายพ่วงแบตมีไฟขึ้น แสดงว่ามีอุปกรณ์บางตัวในระบบดึงไฟไปหรืออาจจะเป็นรีเลย์ที่กำลังพยายามให้พลังงาน  อยู่ก็เป็นได้

คุณสามารถใช้ ammeter  กับการตรวจสอบประเภทนี้ได้เช่นกัน แต่ต้องใช้มาตรวัดที่ถูกต้องเพราะคุณจะได้ไม่ทำให้ฟิวส์ขาดระหว่างใช้เครื่องวัด

หรือคุณอาจจะหาจุดรั่วได้ด้วยการนำฟิวส์ออกทีละตัวจนกว่าไฟจะดับไปหรือ ammeter หยุดตรงที่ค่าศูนย์     จากนั้นคุณสามารถหาจุดรั่วจากชิ้นส่วนประกอบนั้นๆได้บนแผงวงจร    หนึ่งในสาเหตุของการรั่วที่พบได้บ่อยที่สุดคือ การที่ไฟส่วนที่เก็บของท้ายรถหรือส่วนที่ใส่ของข้างหน้าด้านคนนั่งข้างคนขับ ส่องสว่างเนื่องจากสวิทช์ทำงานผิดปกติ  ซึ่งคุณจะไม่มีทางรู้ได้ว่าไฟเหล่านี้เปิดเพราะช่องเหล่านี้ปิดอยู่และทำให้การหาจุดรั่วยากมากขึ้น


ดูแลแบตเตอรี่ของคุณไม่ให้หมดในช่วงจอดยานพาหนะเก็บไว้


ดูแลรักษาแบตเตอรี่

จุดนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณวางแผนจะทิ้งรถไว้เฉยๆนานแค่ไหน คุณอาจจะไม่ทำอะไรกับมันเลยหรือจะตัดการเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่    แต่อย่างไรก็ตาม การสูญเสียประจุก็จะทำให้แบตเตอรี่ใหม่สูญเสียประจุไปอย่างช้าๆ      แม้แบตเตอรี่ตะกั่ว – กรด มีการสูญเสียประจุค่อนข้างต่ำหรือประมาณ 5% ต่อเดือน แต่หากเก็บยานพาหนะไว้เป็นเวลานาน จะทำให้แบตเตอรี่เกิดการสูญเสียประจุจนถึงระดับที่เป็นอันตราย

ถ้าคุณอยากป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่ ของคุณหมดในระหว่างการเก็บรักษาไว้เป็นเวลานาน   เรามี 2 วิธีการดูแลรักษาแบตเตอรี่ และแก้ไขมาแนะนำ วิธีแรกคือ การชาร์จเป็นครั้งคราวและอีกวิธีคือ การใช้  float charger ที่ชาร์จอัตโนมัติเมื่อแบตเตอรี่ลดลงต่ำกว่าระดับแรงดันไฟฟ้าที่กำหนด

แม้ว่าเครื่องชาร์จ battery tender  หรือ  float charger จะช่วยป้องกันแบตเตอรี่ไม่ให้หมดในขณะที่ยานพาหนะของคุณจอดเก็บไว้  จะดีกว่าไหมที่จะติดตามสถานการณ์บ้างเป็นครั้งคราวเพราะหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นและ charger ที่ไม่ได้ปิด อาจทำความเสียหายให้แก่แบตเตอรี่ของคุณได้