น้ำกรด แบตเตอรี่
เมื่อไรที่แบตเตอรี่ต้องการ น้ำกรด แทนที่จะต้องเติมน้ำ?
June 5, 2017
เครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์
เครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ อุปกรณ์ช่วยชีวิตเมื่อแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณหมด
June 6, 2017
น้ำกรด แบตเตอรี่
เมื่อไรที่แบตเตอรี่ต้องการ น้ำกรด แทนที่จะต้องเติมน้ำ?
June 5, 2017
เครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์
เครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ อุปกรณ์ช่วยชีวิตเมื่อแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณหมด
June 6, 2017

ทำไม แบตเตอรี่รถยนต์หมด ในฤดูหนาว ?

แบตเตอรี่รถยนต์หมด

ทำไม แบตเตอรี่รถยนต์หมด ในฤดูหนาว ?

ดูเหมือนแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณรู้ว่าหมดตอนไหนแล้วชีวิตจะลำบาก เช่น ท่ามกลางพายุหิมะในฤดูหนาว แต่เหตุผลทางวิทยาศาสตร์สามารถตอบปัญหานี้ได้

คำถาม: ทำไมแบตเตอรี่รถยนต์หมดในฤดูหนาว?

เหมือนแบตเตอรี่รถยนต์ฉันจะรู้ว่าหมดตอนไหนแล้วฉันจะเดือดร้อนที่สุด   มีสาเหตุอะไรไหมที่ทำให้แบตเตอรี่หมดในฤดูหนาวหรือมันหมดได้ตลอดอยู่แล้ว หรือฉันคงซวยจริงๆ?

คำตอบ:

จริงที่แบตเตอรี่รถยนต์จะหมดเป็นปกติในช่วงฤดูหนาวแต่บางแหล่งบอกว่าแบตเตอรี่หมดในฤดูร้อนบ่อยกว่าฤดูหนาวเสียอีก

คุณอาจมีอติไปเองแต่ไม่ได้หมายความว่าคุณแปลกแต่อย่างใด   เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่แฝงอยู่ในเทคโนโลยีแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด ชี้ว่าทั้งอากาศร้อนและเย็นต่างสามารถส่งผลเสียต่ออายุและการทำงานของแบตเตอรี่ได้เหมือนกัน

แม้อากาศร้อนจะเป็นตัวทำลายแบตเตอรี่ที่แท้จริงแต่หลายๆกรณีอากาศเย็นก็ให้ผลร้ายไม่ต่างกัน ดังนั้นคุณควรตรวจเช็คแบตเตอรี่ก่อนเดินทางไปเที่ยวหน้าร้อน รวมถึงซ่อมบำรุงแบตเตอรี่ตามปกติในฤดูไม้ร่วงก่อนที่มันจะสร้างปัญหาให้คุณในพายุหิมะ


ตัวทำลายแบตเตอรี่รถยนต์ ตัวจริงเสียงจริง : อุณหภูมิสุดโต่ง


แบตเตอรี่รถยนต์หมด

แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดถูกออกแบบมาให้ทำงานได้กับช่วงอุณหภูมิที่กว้างพอสมควร แต่สมรรถนะมันก็แย่ได้เมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมทั้งร้อนและเย็น   เมื่อดูตามผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ในอุตสาหกรรม พบว่าความจุของแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด ลดลงประมาณ 20% จากปกติ ในสภาพอากาศที่เป็นน้ำแข็ง และจะลดลงถึง 50% เมื่ออุณหภูมิลดลงถึง -22 องศาฟาเรนไฮต์

ในกรณีเดียวกัน ความเย็นสุดโต่งลดความจุของแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด ซึ่งโดยปกติแล้ว อุณหภูมิสูงจะเพิ่มความจุ   อันที่จริง ความจุของแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด สามารถเพิ่มขึ้นได้ถึง  12% ที่อุณหภูมิ 122 องศาฟาเรนไฮต์และที่อุณหภูมิ 77 องศาฟาเรนไฮต์ และแน่นอนว่ามีผลเสียตามมาพร้อมความจุที่เพิ่มขึ้น แม้อุณหภูมิสูงจะเพิ่มความจุ แต่มันกลับลดอายุแบตเตอรี่ลง


สาเหตุที่แบตเตอรี่รถยนต์หมดในฤดูหนาว


แบตเตอรี่รถยนต์หมด

เราพบสามปัจจัยหลักที่ทำให้แบตเตอรี่หมดในฤดูหนาว ได้แก่ ความจุที่ลดลง, การดึงไฟจากมอเตอร์สตาร์ทที่เพิ่มมากขึ้น, และการดึงไฟจากอุปกรณ์เสริมที่เพิ่มมากขึ้น

เมื่อคุณสตาร์ทรถ  มอเตอร์สตาร์ทจะใช้จำนวนแอมแปร์มหาศาลในการทำงาน   แต่ภายใต้สถานการณ์ปกติ แบตเตอรี่ของคุณจะไม่งอแง ในขณะที่ความสามารถในการส่งแอมแปร์ปริมาณมากในช่วงเวลาอันสั้นเป็นหนึ่งในสิ่งที่แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด ทำได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่ที่ใช้งานมานานแล้วสามารถสร้างปัญหาในฤดูหนาวได้มากมาย แม้ความจุมันจะไม่ได้ลดตามอายุแต่อุณหภูมิที่ต่ำหรือต่ำกว่าจุดเยือกแข็งก็ทำให้ความจุของแบตเตอรี่ใหม่ลดลง จนมอเตอร์สตาร์ททำงานไม่ได้เช่นกัน

เมื่อดูที่สถิติของแบตเตอรี่ ค่า CCA เป็นตัวเลขที่บอกว่าจำวนแอมแปร์มากเท่าไรที่แบตเตอรี่สามารถจ่ายได้เมื่อเจออากาศเย็น   ถ้าค่าสูงแสดงว่าแบตเตอรี่นั้นสามารถรับมือกับอากาศเย็นได้ดีกว่าแบตเตอรี่ที่มีค่าต่ำแม้ความจุจะลดลงก็ตาม

ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นมากๆ บางครั้งมอเตอร์สตาร์ทอาจต้องการจำนวนแอมแปร์ที่สูงกว่าปกติ นั่นเป็นเพราะน้ำมันของมอเตอร์เหนียวขึ้นเมื่อเจออากาศเย็น โดยเฉพาะเมื่อคุณใช้น้ำมันแบบ  single weight oil ที่ไม่มีค่าความหนืดที่แตกต่างมารองรับสภาพอากาศร้อนและเย็น ดังนั้นเมื่อน้ำมันเหนียว เครื่องยนต์จะทำงานยากขึ้น และส่งผลให้มอเตอร์สตาร์ทต้องดึงจำนวนแอมแปร์มาใช้มากขึ้น

การขับรถในฤดูหนาวสร้างภาระให้แบตเตอรี่ของคุณมาก  ไหนจะต้องใช้ไฟหน้าและที่ปัดน้ำฝนบ่อยกว่าปกติเพราะในฤดูหนาวกลางวันจะสั้นกว่ากลางคืน รวมไปถึงสภาพอากาศที่โหดร้ายมากกว่า

ยกเว้นว่าคุณมีไดชาร์จสมรรถนะสูง ที่สามารถทำให้ระบบประจุของคุณทำงานต่อไปได้   ตั้งแต่ที่ความจุแบตเตอรี่ของคุณลดลงจากอากาศเย็น มันอาจเร่งให้แบตเตอรี่เก่าของคุณเสียเร็วยิ่งขึ้น


สาเหตุที่แบตเตอรี่รถยนต์หมดในฤดูร้อน


แบตเตอรี่รถยนต์หมด

อากาศร้อนส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่เหมือนกับอากาศเย็น  อันที่จริง อากาศร้อนทำให้อายุแบตเตอรี่สั้นลงได้โดยตรง โดยแบตเตอรี่ที่ทำงานคงที่ที่อุณหภูมิ 77 องศาฟาเรนไฮต์ จะมีอายุยาวกว่าแบตเตอรี่ที่ทำงานคงที่ที่อุณหภูมิประมาณ 92 องศาฟาเรนไฮต์ ถึง 50%

เมื่อดูตามผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่สากล จะพบว่าอายุแบตเตอรี่จะถูกตัดลงครึ่งหนึ่งในการเพิ่มขึ้นแต่ละ 15 องศา เมื่อใช้อุณหภูมิ 77 องศาฟาเรนไฮต์ เป็นอุณหภูมิทำงานมาตรฐาน อ้างอิง

Car Care Council ได้ระบุไว้ว่าสาเหตุหลักสองข้อที่ทำให้แบตเตอรี่หมดคือ ความร้อนและการประจุเกินควร   เมื่อ electrolyte ได้รับความร้อน มันจะระเหย   ถ้าไม่มีการเติมสาร แบตเตอรี่อาจเสียหายอย่างรุนแรง   ส่วนการให้ประจุแบตเตอรี่มากเกินควร สามารถทำให้อายุแบตเตอรี่สั้นลง รวมไปถึงสร้างความเสียหายภายในและก่อให้เกิดการระเบิดได้


ดูแลให้แบตเตอรี่รถยนต์ให้ใช้งานได้ในฤดูร้อนและฤดูหนาว


แบตเตอรี่รถยนต์หมด

เมื่อไรก็ตามที่แบตเตอรี่ของคุณทำงานนอกเหนือจากช่วงอุณหภูมิที่กำหนดมา เช่น ในอากาศที่ร้อนระอุหรือเยือกแข็ง ดังนั้น มีโอกาสสูงที่แบตเตอรี่จะพังได้   วิธีที่คุณสามารถทำได้ในฤดูหนาวคือ ทำให้แบตเตอรี่คุณมีประจุอยู่เสมอ    Interstate Battery ระบุว่าแบตเตอรี่ที่อ่อนจะเริ่มหยุดทำงานที่อุณหภูมิ 32 องศาฟาเรนไฮต์ ในขณะที่แบตเตอรี่ที่มีประจุเต็มจะไม่หยุดทำงานจนกว่าจะถึงอุณหภูมิ  -76 องศาฟาเรนไฮต์  ดังนั้น ควรมีการตรวจเช็คสภาพ load tested แบตเตอรี่, electrolyte, และการเชื่อมต่อเพื่อหาจุดที่มีสนิมก่อนลมหนาวจะมาเยือน

ส่วนในฤดูร้อน คุณสามารถทำให้แบตเตอรี่ของคุณอยู่ได้นานโดยหมั่นบำรุงรักษาบ้างเล็กน้อย   ตามที่ทราบกันว่าสาเหตุหลักที่ทำให้แบตเตอรี่ขัดข้องคือ ความร้อน และส่งผลให้  electrolyte ระเหย ดังนั้น คุณควรตรวจเช็ค electrolyte ในช่วงนี้ และเติมสารให้เต็มเมื่อเห็นว่า electrolyte เริ่มลดลง ไม่อย่างนั้นแล้ว จะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาในภายหลัง