อายุแบตเตอรี่ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีวันหมดอายุ
June 6, 2017แบตเตอรี่รถยนต์ 12 โวลต์ สามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตของคุณหรือไม่
June 6, 2017ทำไมแบตเตอรี่รถยนต์ถึงได้หมดอยู่เรื่อย
ทำไม แบตรถยนต์หมด อยู่เรื่อย
มันน่าผิดหวังมากที่แบตเตอรี่รถของคุณหมดอยู่บ่อยๆ แต่ปัญหาอาจจะเป็นอะไรแค่เพียงสนิมที่ขั้วแบตเตอรี่ก็เป็นได้
มันอาจจะดูเป็นเรื่องโชคร้ายเมื่อคุณพบกับปัญหา แบตรถยนต์หมด แต่ความจริงแล้วมันเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เนื่องจากแบตเตอรี่สามารถหมดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ถ้าคิดในแง่ดี เหตุการณ์เหล่านี้อาจจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เรียนรู้แนวทางป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก แต่หากแบตเตอรี่รถของคุณหมดอยู่เรื่อย มันก็อาจจะเป็นสัญญาณเตือนได้ว่าคุณควรจัดการแก้ปัญหากับแบตเตอรี่ของคุณอย่างเร่งด่วน หากคุณไม่อยากประสบกับเหตุการณ์แบตเตอรี่หมดกลางทาง
ทำไมแบตเตอรี่ถึงหมด
สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่หมดนั้นมีมากมายจนให้บอกเท่าไหร่ก็ไม่หมด แต่สาเหตุทั้งหลายอาจถูกจัดให้อยู่ในสามกลุ่ม ได้แก่ปัญหาที่แบตเตอรี่ ปัญหาที่ระบบไฟฟ้า และความผิดพลาดในการทำงาน ซึ่งบางอย่างอาจแก้ได้ด้วยตัวเองที่บ้าน ส่วนบางกรณีก็อาจจะต้องพึ่งช่างยนต์ แต่คุณไม่มีทางรู้ถึงสาเหตุได้อย่างชัดเจนจนกว่าคุณจะต้องทำการสำรวจมันอย่างละเอียดซะก่อน
ผู้คนต่างมีประสบการณ์แบตเตอรี่หมดในหลากหลายรูปแบบ บางคนพูดถึงสถานการณ์ที่ไม่สามารถสตาร์ทรถได้หลังจากจอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน แต่หากแบตเตอรี่หมดในระหว่างที่รถของคุณกำลังวิ่งอยู่บนถนน นี่อาจเป็นปัญหาที่เกิดจากระบบชาร์จ (เราจะต้องหาสาเหตุของสถานการณ์นี้ด้วยแน่นอน)
อะไรคือสาเหตุทำให้แบตเตอรี่หมดอยู่เป็นประจำ
เหตุผลส่วนใหญ่สำหรับแบตเตอรี่ที่หมดอย่างต่อเนื่องนั้นรวมถึงการเชื่อมต่อแบตเตอรี่ที่หลวมหรือมีจุดบกพร่อง การใช้พลังงานไฟฟ้าจนหมด หรือปัญหาเรื่องการชาร์จที่มีปริมาณกระแสไฟที่ต้องการมากกว่าตัวปั่นไฟจะจ่ายได้ และรวมไปถึงสภาพภูมิอากาศด้วยเช่นกัน
ปัญหาเหล่านี้มากพอที่จะทำให้แบตรถยนต์หมดได้และมักจะพ่วงมาด้วยปัญหาเรื่องแบตเสื่อมคุณภาพหรือไม่พร้อมใช้งานด้วยเช่นกัน
- ไฟหน้าหรือไฟในห้องโดยสารถูกเปิดทิ้งไว้
- ไฟหน้าหรือแม้กระทั่งไฟให้ห้องโดยสารจะทำให้แบตรถยนต์หมดได้ภายในข้ามคืน
- ตรวจสอบไฟด้านในให้ดีหลังจากสำรวจไฟด้านนอกแล้ว
- ไฟหน้าบางตัวถูกออกแบบมาให้เปิดทิ้งไว้ชั่วครู่แต่ว่าการทำงานที่ผิดพลาดอาจทำให้มันไม่สามารถดับเองได้อัตโนมัติ
- แบตเตอรี่เสื่อมสภาพหรือไร้ประสิทธิภาพในการใช้งาน
- แบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพนั้นไม่สามารถรักษาประจุไฟฟ้าไว้ได้ตามปกติ
- แม้แต่วิทยุรถยนต์ก็สามารถทำให้แบตเตอรี่หมดได้หากแบตเตอรี่ของคุณไร้ประสิทธิภาพ
- การเชื่อมต่อแบตเตอรี่หลวมหรือเป็นสนิม
- อาจทำให้ไปขัดขวางระบบชาร์จไม่ให้ทำงานขณะที่รถวิ่งอยู่
- และอาจทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมา
- การรั่วไหลในระบบไฟฟ้า
- ปัญหานี้อาจพบได้ยาก แต่มันก็สามารถทำให้แบตรถยนต์หมดได้เช่นกัน
- แบตเตอรี่อาจหมดได้ง่ายๆจากตัวครอบหรือไฟกระโปรงท้ายที่ถูกเปิดทิ้งไว้
- สภาพอากาศที่หนาวจัดหรือร้อนจัด
- ความร้อนจัดหรือหนาวจัดจะไม่ส่งผลกระทบต่อแบตเตอรี่ที่ยังใหม่หรืออยู่ในสภาพดีได้ แต่สำหรับแบตเตอรี่ที่เก่าหรือสภาพไม่ดีแล้ว มันมีผลเสียอย่างแน่นอน
- อากาศที่ร้อนจัดหรือเย็นจัดสามารถทำให้ปัญหาต่างๆแย่ลงได้
- ปัญหาที่ระบบชาร์จ
- หากแบตเตอรี่มีทีท่าว่ากำลังจะหมดในระหว่างที่คุณกำลังขับรถ แสดงว่าอาจมีปัญหาที่ระบบชาร์จไฟ
- สายพันที่หลวมหรือแน่นเกินไปและลูกรอกที่เก่าอาจไปขัดขวางการทำงานของตัวปั่นไฟได้
ตรวจสอบระบบไฟหน้า ไฟห้องโดยสารและอื่นๆ
แบตเตอรี่รถยนต์ถูกออกแบบมาเพื่อจ่ายไฟให้แก่การทำงานของไฟหน้า ไฟห้องโดยสารและอุปกรณ์อื่นๆในระหว่างที่เครื่องยนต์ไม่ได้ทำงาน แต่ว่ามันก็มีข้อจำกัดเช่นกัน นั่นหมายความว่าหากมีอะไรถูกเปิดทิ้งไว้หลังจากดับเครื่องยนต์แล้ว แบตเตอรี่ก็จะหมดลงอย่างแน่นอน
การปล่อยให้ไฟหน้ากินแบตเตอรี่ในช่วงเวลาหนึ่งในระหว่างที่คุณออกไปทำธุระหรือช้อปปิ้ง แม้กระทั่งไฟห้องโดยสารก็สามารถทำให้แบตเตอรี่หมดได้ภายในข้ามคืน เพราะฉะนั้นหากคุณกำลังหาทางแก้ปัญหาแบตเตอรี่หมดอยู่เป็นประจำ คุณอาจจะต้องออกมาเช็คความเรียบร้อยยามค่ำคืนว่าไฟต่างๆถูกเปิดทิ้งไว้หรือไม่
ยานพาหนะใหม่ๆจะถูกออกแบบมาเพื่อให้ไฟหน้า ไฟห้องเครื่องหรือแม้กระทั่งวิทยุถูกเปิดไว้ครู่หนึ่งหลังจากเครื่องยนต์ดับแล้ว
หากอุปกรณ์ด้านต้นทำงานได้อย่างปกติ คุณก็สามารถเดินออกมาหลังจากดับเครื่องได้อย่างสบายใจเพราะระบบต่างๆจะหยุดทำงานหรือปิดเองโดยอัตโนมัติ แต่หากคุณกลับไปหลังจากครึ่งชั่วโมงหรือชั่วโมงหนึ่งแล้วพบว่าไฟหน้ายังติดอยู่แสดงว่าระบบเหล่านั้นมีปัญหาและนี่แหละคือสาเหตุของแบตเตอรี่ที่หมดอยู่บ่อยๆ
การดูแลรักษาและทดสอบแบตเตอรี่รถยนต์
หากคุณไม่เห็นอะไรผิดสังเกตเช่นไฟหน้าหรือไฟในห้องผู้โดยสารเปิดอยู่ สิ่งที่คุณควรเช็คถัดไปก็คือตัวแบตเตอรี่เอง ปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลรักษาขั้นพื้นฐาน และแบตเตอรี่ที่ไม่มีการดูแลรักษาที่ดีพอจะทำให้ไม่สามารถเก็บประจุไฟได้ดีได้อย่างที่ควรจะเป็น
หากแบตเตอรี่ของคุณไม่ได้ถูกซีล ก็ควรต้องเช็คให้แน่ใจว่าแต่ละเซลล์ถูกปิดด้วยอิเล็กโทรไลต์อย่างเหมาะสมหรือไม่ หากคุณมองเข้าไปในเซลล์แล้วเห็นระดับอิเล็กโทรไลต์ต่ำลงมาเหนือแผ่นตะกั่ว นั่นจะทำให้เกิดปัญหา
เซลล์แบตเตอรี่ควรเติมด้วยน้ำกลั่น แต่การใช้น้ำก๊อกก็สามารถทำได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของแหล่งน้ำในบริเวณที่คุณอาศัยอยู่ คุณยังสามารถเทสแบตเตอรี่ด้วยเครื่องมือที่ไม่แพงอย่างไฮโดรมิเตอร์ได้ ซึ่งทำให้คุณสามารถเช็คความถ่วงจำเพาะของอิเล็กโทรไลต์ในทุกเซลล์ หากมีเซลล์ที่ต่ำลงหลังจากชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้ว นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณควรเปลี่ยนแบตเตอรี่
อีกทางหนึ่งที่จะเช็คแบตเตอรี่ของคุณคือการใช้เครื่องมือที่มีราคาแพงขึ้นมาที่เรียกว่าเครื่องเทสโหลด เครื่องมือนี้จะวางโหลดให้แบตเตอรี่ไปกระตุ้นการดึงกระแสไฟของมอเตอร์สตาร์ทและทำให้คุณสามารถเห็นแรงดันแบตเตอรี่ที่โหลดและไม่โหลด บางร้านอาจให้คุณได้เทสโหลดแบตเตอรี่ได้ฟรีๆหากคุณไม่มีอุปกรณ์ แต่บางร้านก็จะคิดค่าเทสในราคามาตรฐานทั่วไป
หากคุณตัดสินใจที่จะมีเทสเตอร์โหลดเป็นของคุณเอง คุณต้องจำไว้ว่าแบตเตอรี่ที่ลัดวงจรภายในสามารถระเบิดได้หากมีปัจจัยมากพอ นี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงสำคัญที่จะต้องใส่เกียร์ป้องกันระหว่างสำรวจแบตเตอรี่
เช็คการเชื่อมต่อแบตเตอรี่ที่หลวมหรือขึ้นสนิม
หากคุณทำการตรวจสอบแบตเตอรี่ของคุณด้วยตาเปล่า คุณอาจเห็นรอยสนิมรอบๆขั้วแบตเตอรี่ สายเคเบิ้ลหรือตัวเชื่อมต่อ สนิมหรือการสึกกร่อนนี้อาจจะไม่ได้สามารถเห็นได้ในบางสถานการณ์ หรือคุณอาจสังเกตเห็นรอยสีเขียว น้ำเงิน หรือขาวใหญ่ของวัสดุที่สึกกร่อน
หากรอยสนิมนี้เกิดขึ้นระหว่างขั้วแบตเตอรี่และตัวเชื่อมสายเคเบิ้ล มันจะเข้าไปแทรกแซงการทำงานของมอเตอร์สตาร์ทให้ดึงกระแสไฟจากแบตเตอรี่และการทำงานของระบบชาร์จทำให้แบตเตอรี่หมด
กำจัดสนิมจากตัวเชื่อมต่อแบตเตอรี่และสายเคเบิ้ล
สนิมแบตเตอรี่อาจถูกล้างได้ด้วยเบคกิ้งโซดา น้ำ หรือแปรงขนแข็ง อย่างไรก็ตามต้องระวังไม่ให้เบคกิ้งโซดาเข้าไปในแบตเตอรี่ และต้องระมัดระวังไว้ว่าหากคุณปล่อยให้เบคกิ้งโซดาที่ผสมกับสนิมนั้นติดอยู่บนพื้นถนนหรือพื้นโรงรถ คุณก็อาจจะไม่สามารถกำจัดมันออกได้ง่ายๆ
สนิมสามารถกำจัดออกได้จากขั้วแบตเตอรี่และสายเคเบิ้ลด้วยกระดาษทรายหรือเครื่องมือพิเศษ เครื่องมือนี้มักประกอบด้วยแปรงลวดที่สามารถใช้งานได้ง่าย เครื่องมือนี้จะช่วยให้ขั้วแบตเตอรี่ก็จะกลับมาสะอาดอีกครั้ง และทำให้การเชื่อมต่อแบตเตอรี่ดีขึ้น
มันสำคัญมากที่การเชื่อมแบตเตอรี่จะต้องแน่นเสมอ หากพบกว่าสายเคเบิ้ลแบตเตอรี่หลวม ก็ถือว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะต้องรีบแก้ไขมัน
หากคุณต้องการเดินสายจากพื้นไปยังโครงรถ สตาร์ทเตอร์และกล่องพักไฟหรือกล่องฟิวส์ คุณอาจจะต้องแน่ใจว่าการเชื่อมต่อนั้นไม่มีสนิมเกาะอยู่
เช็คแหล่งที่กินแบตเตอรี่ของคุณ
หากแบตเตอรี่รถของคุณหมดซ้ำๆ คำอธิบายที่ง่ายที่สุดอย่างหนึ่งก็คือมันมีบางสิ่งบางอย่างในระบบที่กำลังกินแบตเตอรี่ของคุณหลังจากที่คุณดึงกุญแจและล็อครถออกไปแล้ว ถึงคุณจะเชื่อว่าไฟหน้าหรือไฟในห้องโดยสารนั้นไม่เปลืองแบตเตอรี่ แต่ว่าสิ่งเหล่านี้ก็ยังคงใช้กระแสไฟจากแบตเตอรี่คุณอยู่ดี
วิธีง่ายสุดที่จะเช็คว่ามีอะไรบ้างที่กำลังสูบแบตเตอรี่ของคุณ ก็ให้หยุดการเชื่อมต่อสายเคเบิ้ลแบตเตอรี่และเช็คการไหลของกระแสไฟฟ้า หากคุณเลือกใช้มัลติมิเตอร์ ก็ต้องใช้การตั้งค่ากระแสไฟสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้ มิเช่นนั้นอาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่ฟิวส์จะขาดที่ด้านในมิเตอร์ได้ มิเตอร์บางอันรวมถึงตัวคีบเหนี่ยวนำสามารถเช็คกระแสไฟฟ้าโดยที่ไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อใดๆ
คุณยังสามารถเทสการใช้กระแสไฟแบตเตอรี่ด้วยไขควงลองไฟ ซึ่งอาจจะไม่ค่อยได้ผลแม่นยำนัก และต้องถอดการเชื่อมต่อสายเคเบิ้ลขั้วลบและทำให้วงจรสมบูรณ์ระหว่างขั้วแบตเตอรี่ลบกับสายดิน หากไฟกระพริบขึ้น แสดงว่ามีจุดที่กินแบตเตอรี่อยู่ในระบบนั่นเอง
ปัญหาในการใช้อุปกรณ์นี้คือมันยากที่จะระบุว่าปริมาณการใช้กระแสไฟจากแบตเตอรี่คือเท่าไหร่
สิ่งที่เป็นต้นเหตุให้แบตเตอรี่หมดอาจรวมถึงห้องเก็บของและช่องเก็บของด้านหน้าและระบบไฟอื่นๆที่เกิดจากการทำงานผิดพลาดของระบบ ระบบเหล่านี้และระบบไฟภายในถูกออกแบบมาเพื่อปิดอัตโนมัติ และหากมันไม่สามารถทำงานตามปกติได้ มันก็อาจจะเป็นสาเหตุของแบตเตอรี่ที่หมดในชั่วข้ามคืนนั่นเอง
ในกรณีส่วนใหญ่ ต้องใช้กระบวนการหยุดการทำงานเพื่อไปขัดขวางการสูบกระแสไฟจากแบตเตอรี่ วิธีง่ายที่สุดที่จะวินิจฉัยปัญหานี้คือการปล่อยให้มัลติมิเตอร์หรือไขควงลองไฟเชื่อมต่อและเอาฟิวส์บางตัวตัวออกจนกว่าแบตเตอรี่จะหยุดจ่ายกระแสไฟ คุณอาจจะต้องตรวจสอบวงจรไฟฟ้าด้วย ซึ่งจะทำให้คุณหาที่มาของปัญหาได้ดียิ่งขึ้น
จัดการกับสภาพอากาศที่เลวร้าย ปัญหาจากระบบการชาร์จและแบตเตอรี่เสื่อมคุณภาพ
อากาศที่ร้อนจัดหรือหนาวจัดอาจทำให้แบตเตอรี่ของคุณเกิดปัญหา แต่มันจะเกิดขึ้นเป็นปกติอยู่แล้วหากแบตเตอรี่ของคุณเสื่อมสภาพ หากคุณเทสแบตเตอรี่และมันยังปกติ และการเชื่อมต่อก็ยังแน่นและขั้วยังสะอาดดี หากเป็นเช่นนั้น แค่ปัจจัยด้านอากาศก็ไม่สามารถทำอะไรแบตเตอรี่คุณได้หรอก
ปัญหาจากระบบการชาร์จอาจทำให้แบตเตอรี่หมดอยู่เป็นประจำแม้ว่าคุณจะสังเกตได้ถึงปัญหาเรื่องสมรรถนะได้เช่นกัน สิ่งที่คุณสามารถเช็คได้ง่ายๆที่บ้านก็คือสายพานตัวปั่นไฟซึ่งต้องตึงและไม่มีรอยแตกหักใดๆ หากสายพานหลวม มันอาจจะไปขัดขวางการทำงานของตัวปั่นไฟในการผลิตกระแสไฟไปชาร์จแบตเตอรี่เพื่อไปใช้ในการทำงานต่างๆ
ถ้าหากแบตเตอรี่ของคุณชอบหมดระหว่างการเดินทาง
ดูเหมือนว่าแบตเตอรี่ของคุณจะชอบหมดระหว่างที่คุณกำลังขับรถอยู่บนท้องถนน แต่ปัญหาที่แท้จริงอาจะไม่ได้เป็นที่แบตเตอรี่ ที่จริงแล้วหน้าที่ของแบตเตอรี่คือจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับมอเตอร์สตาร์ทและจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ต่างๆอย่างเช่นไฟส่องสว่างหรือวิทยุเมื่อเครื่องยนต์ดับ เมื่อเครื่องยนต์กำลังทำงาน ระบบชาร์จไฟก็เข้ามาทำงานแทนที่
มันจึงดูเหมือนว่าแบตเตอรี่น่าจะหมดในตอนที่รถวิ่ง แต่ความจริงแล้วมันอาจจะเป็นปัญหาที่ระบบชาร์จของคุณก็ได้
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าสิ่งเดียวที่คุณจะสามารถเช็คได้ในระบบการชาร์จโดยไม่ต้องมีเครื่องมือพิเศษคือสายพาน หากสายพานตัวปั่นไฟหลวม คุณอาจจะต้องทำมันให้ตึง หรือคุณอาจจะใช้สายพานที่มีลูกรอกตั้งสายพาน ซึ่งสายพานอาจจะยืดตามอายุของมัน
ปัญหาในการเช็คระบบชาร์จที่บ้าน
หากคุณมีมัลติมิเตอร์กับตัวคีบเหนี่ยวนำ คุณก็สามารถเช็คปริมาณการจ่ายไฟของตัวปั่นไฟได้ แต่การตรวจสอบวิธีนี้ยากหากไม่มีเครื่องมืออื่นและพื้นฐานความรู้เกี่ยวกันตัวปั่นไฟพิเศษ ตัวอย่างเช่น การพยายามจะทดสอบตัวปั่นไฟโดยการตัดการเชื่อมต่อสายเคเบิ้ลแบตเตอรี่ขณะที่เครื่องยนต์กำลังวิ่งนั้นไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยหากยานพาหนะของคุณเป็นรุ่นใหม่
ร้านหรืออู่บางที่อาจให้คุณทดสอบตัวปั่นไฟได้ฟรี และที่เหลือก็อาจจะคิดค่าทดสอบในอัตราปกติ แต่จำเป็นต้องจำไว้ว่าอย่างไรก็ตามมันจะมีความแตกต่างระหว่างการทดสอบแบบธรรมดาและการวินิจฉัยเชิงลึกซึ่งสามารถวิเคราะห์ได้ถึงรากปัญหา
ในหลายๆกรณีที่ตัวปั่นไฟไม่ได้กำลังชาร์จอยู่ และเครื่องยนต์ดับ มันอาจเป็นปัญหาที่ตัวปั่นไฟที่ต้องได้รับการเปลี่ยนหรือซ่อมแซมใหม่ อย่างไรก็ตามมันมีเหตุผลหลายประการที่ระบบไฟฟ้ารถยนต์จะถูกตัดขณะกำลังวิ่งอยู่ และอีกหลายเหตุผลที่รองรับสถานการณ์ที่เครื่องยนต์ดับอย่างไม่มีสาเหตุ
ทำอย่างไรไม่ให้แบตเตอรี่ของคุณหมดซ้ำๆซากๆ
มันคือเรื่องจริงที่แบตเตอรี่นั้นมีอายุขัยของมัน แต่กุญแจสำคัญที่จะยืดอายุของแบตเตอรี่ตะกั่วอย่างเช่นของรถคุณคือการดูแลรักษามันอย่างดีและใช้อย่างถูกลักษณะ หากคุณกำลังเผชิญกับเหตุการณ์ที่แบตเตอรี่หมดซ้ำๆ นี่เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บ่งบอกได้ว่าแบตเตอรี่ของคุณกำลังมีอายุที่สั้นลงเรื่อยๆ
ตรวจสอบให้แน่ว่าการเชื่อมต่อแบตเตอรี่ของคุณแน่นและปลอดภัย และไม่มีจุดที่ทำให้อิเล็กโทรไลต์ในแบตเตอรี่ที่ไม่ได้ซีลรั่วออกมา ด้วยวิธีนี้คุณจะสามารถช่วยชีวิตแบตเตอรี่ของคุณให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้น
คุณอาจไม่สามารถหลีกเลี่ยงประเด็นอย่างเช่นการกินแบตเตอรี่ได้มากนัก แต่การแก้ปัญหาตามขั้นตอนอาจช่วยยืดเวลาของแบตเตอรี่ได้ Battery tender ก็เป็นตัวช่วยหนึ่งที่อาจช่วยคุณได้ในฤดูหนาว ถ้าหากคุณอยู่ในพื้นที่ที่หนาวมาก หรือในกรณีที่มีการเดินทางไปข้างนอกเป็นเวลาหลายวัน